เพียงไม่กี่ระลอกที่คลื่นโถมซัดฝั่ง
สิ่งที่ตามมาคือความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนใน  ๖  จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย 
นี่คือความร้ายกาจของคลื่นยักษ์สึนามิ
ผู้คนทั้งโลกโศกเศร้ากับชะตากรรมของเพื่อนผู้ประสบภัย
กล่าวเฉพาะในประเทศไทย
สายธารการช่วยเหลือหลั่งไหลไม่ขาดสายต่อเนื่อง  ทั้งสิ่งของเงินทอง  รวมทั้งการสละแรงกายแรงใจ
ลบคำครหาและข้อกังขาที่ว่าสังคมเราแล้งไร้น้ำใจ  ขาดความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมสังคมที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์
แต่ใช่หรือไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้  เราทุกคนต่างก็รู้สึกว่า  เรามีภัยเดียวกันคือภัยธรรมชาติ
ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ความรุนแรงใน  ๓  จังหวัดภาคใต้ 
ต่างกับการเดินขบวนเรียกร้องขอความเป็นธรรมของสมัชชาคนจน 
ต่างกับการสูญเสียชีวิตของผู้นำชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ
ด้วยรู้สึกว่าคนเหล่านั้นทำความเดือดร้อน  นำไปสู่ความไม่ชอบ  กระทั่งรู้สึกโกรธเกลียด
มากกว่าจะทำความเข้าใจปัญหาอย่างถึงรากเหง้า
ที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแต่ต้นเพียงหวังว่า
เราจะอาศัยห้วงยามที่ทุกคนกำลังมีความรู้สึกร่วมกันว่า  ตนเองมีคุณค่าต่อผู้อื่น
เป็นโอกาสในการต่อยอด “จิตสำนึกมนุษยธรรม” ไปสู่ “จิตสำนึกสังคม”ได้อย่างไร…

[บท บก.] [เปิดประเด็น] [ธารกวี] [มุมหนังสือ] [บทความจร] [เล่าสู่กันฟัง] [การฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา] [ว่าด้วยชีวิต] [มอบของขวัญ] [ลานข่าว] [ฝากคำ]
จำนวนผู้เข้าชม 006491